ในสมัยก่อน ประมาณ ปี พ.ศ. 2517 พื้นที่ตามแนวชายแดน เป็นป่าทึบและยังเป็นดินแดนสีแดงหรือเรียกว่ากลุ่มคอมมิวนิสต์เข้ามาหลบอยู่ในป่า ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยกล้าเข้าในป่าลึก โดยเฉพาะตามแนวชายแดน  ท่านได้มาธุดงค์เข้าในในป่าบริเวณนี้ซึ่งอยู่บนเนินเขาพนมดงรัก ติดชายแดนไทย กัมพูชา ชอบความสงบตามธรรมชาติ ได้พำนักแ

เป็นเขื่อนกั้นน้ำขนาดเล็ก สามารถเก็บน้ำได้ตลอดปี มีร้านจำหน่ายอาหารพื้นบ้าน มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีสถานที่ลงอาบน้ำ สัมผัสกับอากาศเย็นสบาย เป็นแหล่งต้นน้ำที่ส่งหล่อเลี้ยงชาวกาบเชิง และก่อให้เกิดกลุ่มปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ

ช่องจอมเป็นเส้นทางข้ามแดนที่ใหญ่และสะดวกที่สุดของจังหวัดสุรินทร์ที่จะไปยังกัมพูชา ทำให้มีการติดต่อสัญจรไปมาและซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชาวไทยและกัมพูชา

มีสภาพอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด โดยจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามพระราชดำริ เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสืบไป

ปราสาทที่ก่อด้วยอิฐย่อมุมรูปสี่เหลียมจัตุรัส ขนาด 5 เมตร ลักษณะปราสาทมีสภาพทรุดโทรมมีประตูเข้าออก ที่ประตูส่วนล่างยังเหลือกรอบประตูครึ่งหนึ่ง ทั้งสองข้างที่ประตูด้านทิศใต้มีเสาประดับแกะสลักลวกลายติดกรอบประตู ตัวปราสาทสร้างบนเนินดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมนมีคูน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน

หลังบ้าน กาแฟสด ที่อยู่ 214 ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32210

Unnamed Road ตำบล โคกตะเคียน อำเภอ กาบเชิง สุรินทร์ ประเทศไทย

ตำบล แนงมุด อำเภอ กาบเชิง สุรินทร์ ประเทศไทย